ไม่ต้องรู้กราฟเทคนิค ก็เทรดทำกำไรได้ด้วย ICHIMOKU

ICHIMOKU (อิชิโมกุ) เครื่องมือที่จะช่วยในการทำความเข้าใจกราฟ และนำไปใช้ได้จริง แบบไม่ต้องเก่งกราฟเทคนิค ไม่ต้องตีเส้น เพียงแค่มอง แล้ว Take Action ไปตามสัญญาณก็เก็บกำไรได้ ซึ่งเครื่องมือนี้ ถูกคิดค้นขึ้นเมื่อปลายทศวรรษ 1950 โดยนักข่าวชาวญี่ปุ่นที่เชี่ยวชาญในตลาดการเงิน ซึ่งใช้เวลากว่า 30 ปีในการพัฒนาอินดิเคเตอร์ตัวนี้ให้สมบูรณ์ก่อนที่จะปล่อยออกมาให้แก่ผู้คนใช้จริง โดย ICHIMOKU (อิชิโมกุ) ถือเป็นอินดิเคเตอร์ที่ครบจบในตัวเดียว ให้ข้อมูลทั้งการบอกแนวรับ แนวต้าน แนวโน้มทิศทางของราคา และใช้เป็นเครื่องมือดูสัญญาณการเข้าเทรดได้อย่างแม่นยำ ที่สำคัญสามารถใช้เป็นเครื่องมือเทรดในตลาดการเงินได้เกือบทุกประเภท

แค่มองก็รู้ทิศทางราคา

การดูแนวโน้มเราจะดูที่ Kumo (Cloud) หรืออีกชื่อเรียกคือ ก้อนเมฆ ซึ่งประกอบด้วย Up Kumo และ Down Kumo เดิมที Up Kumo นั้นมีชื่อเดิมที่เรียกว่า Senkou Span A ในขณะที่ Down Kumo จะเรียกว่า Senkou Span B โดยหน้าที่หลัก ๆ ของ Kumo คือการบอกแนวโน้ม

- หาก Up Kumo อยู่เหนือ Down Kumo หรือเรียกว่า “เมฆเขียว” แสดงถึงแนวโน้มขาขึ้น

- หาก Down Kumo อยู่เหนือ Up Kumo หรือเรียกว่า “เมฆแดง” แสดงถึงแนวโน้มขาลง

- หากก้อนเมฆวิ่งตัดกลับไปกลับมา หรือแท่งเทียนอยู่ในกลุ่มก้อนเมฆ บ่งบอกถึงช่วงสภาวะตลาดที่เป็น Sideways ทั้งนี้ความกว้างของก้อนเมฆยังบ่งบอกถึงความผันผวนของตลาด โดยหากก้อนเมฆแคบตัวลงคือช่วงที่ตลาดมีความผันผวนน้อยแต่หากก้อนเมฆกว้างตัวมากขึ้นคือช่วงที่ตลาดมีความผันผวนมาก

หาจุดเข้า-ออก ด้วยเส้น Tenkan และ Kijun

Tenkan หรือเส้น Fast Line กับ Kijun หรือเส้น Slow Line ทั้ง 2 นี้ ทำหน้าที่เป็นเครื่องมือระบุสัญญาณการเทรด โดยจะใช้แนวคิดเดียวกันกับ Moving Average โดย Tenkan ทำหน้าที่เป็นภาพแทนของแนวโน้มระยะสั้น ในขณะที่ Kijun คือภาพแทนของแนวโน้มระยะกลาง

- เมื่อเส้น Tenkan (เส้นสีแดง) ตัดเหนือเส้น Kijun (เส้นสีฟ้า) ขึ้น สะท้อนภาพที่เป็นขาขึ้นในระยะสั้น แต่ทั้งนี้การหาจุดเข้า ควรทำเมื่อเส้นสีแดงตัดเส้นสีฟ้าขึ้นไป และราคาหรือแท่งเทียนต้องอยู่เหนือเมฆด้วย

- เมื่อเส้น Tenkan (เส้นสีแดง) ตัดเหนือเส้น Kijun (เส้นสีฟ้า) ลง สะท้อนภาพที่เป็นขาลงในระยะสั้น แต่ทั้งนี้การหาจุดออก ควรทำเมื่อเส้นสีแดงตัดเส้นฟ้าลง และราคาหรือแท่งเทียนต้องอยู่ใต้เมฆด้วยความแม่นยำที่เชื่อถือได้ในระดับที่น่าพึงพอใจจึงทำให้อินดิเคเตอร์ตัวนี้ได้รับความนิยมไปทั่วโลก ไม่ใช่แค่ในประเทศญี่ปุ่นเท่านั้น แต่หากเข้าไปดูเครื่องมือนี้แล้ว ส่วนมากจะไม่เข้าใจ และตีความเครื่องนี้ผิดไป จึงขอแนะนำให้ศึกษาเพิ่มเติม ทำความเข้าใจเกี่ยวกับอินดิเคเตอร์ ขั้นตอนวิธีการใช้อย่างถูกต้อง เพื่อให้ใช้เครื่องมือได้อย่างมีประสิทธิภาพมากที่สุด